วิธีตรวจสอบเส้นเลือดในสมองแตกและตีบเบื้องต้น โดย หมอเพชร พญ.เพชรไพลิน

การเช็คว่ามีเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบเป็นเรื่องสำคัญมาก
เพราะอาการเหล่านี้สามารถทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตได้
การรู้จักอาการเบื้องต้นและวิธีช่วยเหลืออย่างถูกวิธี
จะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตและลดความเสียหายที่เกิดขึ้น

อาการเบื้องต้นที่ควรสังเกต

1. อาการปวดศีรษะรุนแรงและเฉียบพลัน: เป็นอาการที่พบได้บ่อยเมื่อเส้นเลือดในสมองแตก อาการปวดศีรษะมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและมีความรุนแรงมาก

2. การอ่อนแรงหรือชา: หากเกิดขึ้นในครึ่งด้านหนึ่งของร่างกาย เช่น แขนหรือขาข้างเดียวอ่อนแรงหรือชา อาจเป็นสัญญาณของเส้นเลือดตีบหรือแตก

3. ปัญหาในการพูดหรือเข้าใจภาษา: การพูดไม่ชัด พูดติดอ่าง หรือไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดได้ เป็นอีกอาการหนึ่งที่บ่งบอกถึงเส้นเลือดในสมองมีปัญหา

4. สูญเสียการมองเห็น: การมองเห็นผิดปกติ เช่น เห็นภาพซ้อนหรือมองเห็นไม่ชัดเจน

5. การสูญเสียการทรงตัวหรือเวียนศีรษะ: เดินไม่ได้ตรงหรือเวียนศีรษะเฉียบพลัน

วิธีช่วยเหลือเบื้องต้น

1. เรียกรถพยาบาลทันที: อย่ารอช้า การได้รับการรักษาทันทีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

2. ให้ผู้ป่วยนอนหงาย: หลีกเลี่ยงการให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวมากเกินไป เพื่อป้องกันการเพิ่มความดันในสมอง

3. อย่าให้ผู้ป่วยทานหรือดื่มอะไร: หากผู้ป่วยหมดสติ ควรอยู่กับเขาจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง

เมื่อพบเจอคนใกล้ตัวที่มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก การให้ความช่วยเหลือที่ถูกวิธีและรวดเร็วสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ มาดูกันว่าควรทำอย่างไรในสถานการณ์นี้:

ขั้นตอนการช่วยเหลือเบื้องต้น

1. สังเกตอาการ: หากเห็นอาการปวดศีรษะรุนแรง อ่อนแรงในครึ่งหนึ่งของร่างกาย พูดไม่ชัด หรือสูญเสียการทรงตัว นี่อาจเป็นสัญญาณของเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก

2. ติดต่อบริการฉุกเฉินทันที: โทรหา 1669 หรือหมายเลขฉุกเฉินท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ อย่าพยายามพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองเพราะอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

3. ให้ผู้ป่วยนอนหงาย: ให้ผู้ป่วยนอนหงายในที่ที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวมากเกินไปเพื่อป้องกันการเพิ่มความดันในสมอง

4. อย่าให้ผู้ป่วยทานอาหารหรือดื่มน้ำ: หากผู้ป่วยหมดสติ อย่าพยายามให้เขาดื่มน้ำหรือทานอาหารเพราะอาจทำให้เกิดการสำลัก

5. อยู่กับผู้ป่วยจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง: ให้กำลังใจและสังเกตอาการของผู้ป่วยระหว่างที่รอความช่วยเหลือ

การรับรู้และการเตรียมตัวในการช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตได้